ช่วยลูกไม่ให้กลัวเลข ด้วย “วิธีนั่งร้าน” (Scaffold Method)
- Nonthapat Hansiri
- 29 ส.ค.
- ยาว 1 นาที
หลายครั้งที่ลูกทำการบ้านเลขแล้วบ่นว่า “ยากเกินไป” จริง ๆ อาจไม่ใช่ว่าเขา ไม่เก่งเลข แต่เป็นเพราะโจทย์ถูกยื่นมาให้แบบ ก้าวไกลเกินไป เร็วเกินไป
วิธีแก้ที่ใช้ได้ผลดีในวงการศึกษาก็คือ “Scaffolding” หรือ “วิธีนั่งร้าน” ที่ยืมแนวคิดมาจากจิตวิทยาการเรียนรู้ เปรียบเหมือนการสร้างตึกที่ต้องมีนั่งร้านช่วยพยุงไว้ก่อน พอสร้างเสร็จแข็งแรงแล้ว ก็ค่อย ๆ เอานั่งร้านออก
Scaffolding คืออะไร?
“Scaffolding” หมายถึง การช่วยเหลือชั่วคราว ที่ครูหรือผู้ปกครองมอบให้ เพื่อให้เด็กทำสิ่งที่ยังทำเองไม่ได้ พอเด็กเริ่มมั่นใจและทำได้แล้ว เราก็ค่อย ๆ ลดการช่วยเหลือลง จนสุดท้ายเขาแก้ปัญหาได้ด้วยตัวเอง
แนวคิดนี้เชื่อมโยงกับทฤษฎีของนักจิตวิทยา วีกอตสกี (Vygotsky) ที่พูดถึง Zone of Proximal Development (ZPD) — “โซนแห่งการเรียนรู้ที่เด็กทำเองไม่ได้ แต่ทำได้ถ้ามีคนช่วย”
Scaffolding ในคณิตศาสตร์เป็นยังไง?
ลองนึกภาพว่าเป้าหมายคือให้ลูกแก้โจทย์ข้อความ 2 ขั้นตอนที่ต้อง “คูณก่อนแล้วลบ”เราสามารถจัดขั้นตอนช่วยเหลือแบบนี้ได้:
ทบทวนพื้นฐาน – ทวนสูตรคูณและคำศัพท์ก่อนเริ่ม
แยกโจทย์ให้ชัด – ขีดเส้นใต้ตัวเลขและเครื่องหมายที่สำคัญ
ใช้ภาพช่วย – วาดแผนภาพหรือแถบจำนวน (bar model)
ให้ประโยคช่วยคิด – เช่น “ก่อนอื่นฉันคูณ…, จากนั้นฉันลบ…”
ลดการช่วยเหลือ – ให้ลองทำเองในโจทย์ถัดไป
ทำไมถึงได้ผล?
งานวิจัยด้าน Cognitive Load Theory ชี้ว่า ถ้าข้อมูลใหม่ ๆ เยอะเกินไป เด็กจะสับสนและท้อ การค่อย ๆ แบ่งย่อยทำให้สมองรับได้
งานศึกษาของ Van de Pol และคณะ (2010) พบว่าการสอนแบบมี Scaffolding ช่วยเพิ่มความเข้าใจแนวคิดและการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ได้จริง
นักวิชาการอย่าง Jo Boaler ก็ยืนยันว่าการใช้ภาพโมเดล การทำงานกลุ่ม และการถามนำ เป็นวิธีที่ทำให้เด็กเรียนรู้ได้ดีกว่า
พ่อแม่ก็ Scaffolding ได้
ไม่จำเป็นต้องเป็นครูถึงจะทำได้ เวลาช่วยลูกทำการบ้าน ลองใช้วิธีนี้:
ถามคำถามนำ“จากโจทย์นี้เรารู้อะไรบ้าง?”“ขั้นแรกเราน่าจะทำอะไรดี?”
ใช้เครื่องมือช่วยเช่น ลูกคิด เหรียญจริง กระดาษเขียนภาพ
ทำทีละขั้นด้วยกันช่วยทำข้อแรก แล้วให้ลูกลองทำข้อถัดไปเอง
ให้กำลังใจเล็ก ๆ น้อย ๆชื่นชมเมื่อเขาทำได้ จะช่วยให้มั่นใจขึ้น
Scaffolding ในห้องเรียนไทย
ตอนนี้ครูไทยก็เริ่มใช้วิธีนี้กันมากขึ้น เช่น
ใช้ bar model แบบสิงคโปร์ในการสอนคณิต
โครงการ Lesson Study ที่ครูร่วมกันออกแบบการสอน
โครงงาน STEM ที่ครูคอยชี้แนะแทนการบอกตรง ๆ
องค์กรอย่างธนาคารโลก (World Bank) และ สพฐ. ก็แนะนำแนวทาง Active Learning ที่มี Scaffolding เป็นเครื่องมือสำคัญ
สรุป
Scaffolding ไม่ได้หมายถึง “ทำให้โจทย์ง่ายลง” แต่คือการให้ความช่วยเหลือในเวลาที่เหมาะสม เพื่อให้เด็กก้าวขึ้นไปได้ด้วยตัวเอง
เหมือนนั่งร้านที่พอเสร็จงานก็ติดอยู่กับตึกไม่ได้ แต่สิ่งที่เหลืออยู่คือ “ตึกที่แข็งแรง” และความมั่นใจของเด็กที่พร้อมจะก้าวต่อไป
ความคิดเห็น